- Kinesics
- Oculesics
- Haptics
- Proxemics
- Olfactics
- Physical appearance
- Paralanguage
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
วิชาการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรด้านนิเทศศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย ธุรกิจบัณฑิตย์ เน้อ... ไม่ใช่ของมหา'ลัยอื่น
ครึๆ
Twitter Updates
บทความที่ผ่านมา
บทความ
ผู้ติดตาม
E-buddy
คำอธิบายวิชา CA 676
ศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับตัวแปรทางสังคม จิตวิทยา และวัฒนธรรมที่มีผลกระทบต่อคนที่มีวัฒนธรรมต่างกัน การประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อการเข้าใจสังคม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมและพัฒนาชีวิตตนเอง
เมื่อเรียนวิชาการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมแล้วนักศึกษาควรจะสามารถ
1. นำเอาทฤษฎีการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมไปใช้ในชีวิตจริง
2. เอาใจเขา มาใส่ใจเรา เมื่อสื่อสารกับคนจากต่างถิ่น ในบริบทต่างๆ (การสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารระดับองค์กร การสื่อสารเพื่อสุขภาพ การสื่อสารมวลชน ฯลฯ)
3. บอกถึงสิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม
เมื่อเรียนวิชาการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมแล้วนักศึกษาควรจะสามารถ
1. นำเอาทฤษฎีการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมไปใช้ในชีวิตจริง
2. เอาใจเขา มาใส่ใจเรา เมื่อสื่อสารกับคนจากต่างถิ่น ในบริบทต่างๆ (การสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารระดับองค์กร การสื่อสารเพื่อสุขภาพ การสื่อสารมวลชน ฯลฯ)
3. บอกถึงสิ่งที่ควรศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม
หนังสือ
ตำรา
หนังสือประกอบการเรียนการสอน
- เมตตา วิวัฒนานุกูล (2548). การสื่อสารต่างวัฒนธรรม (Intercultural communication). สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: กรุงเทพฯ
- Lee Jung Hwa (กัญญารัตน์ จิราสวัสดิ์ แปล, 2551) แผนที่วัฒนธรรมรอบโลก (My first world culture map). นานมีบุ๊คส์ พับลิเคชั่นส์: กรุงเทพฯ
หนังสือประกอบการเรียนการสอน
- Dodd, C. (1998). Dynamics of intercultural communication. New York: McGraw Hill.
- Gudykunst, W. & Kim, Y. Y. (1992). Communicating with strangers: An approach to intercultural communication. (2nd ed.). New York: McGraw Hill.
- Rogers, E. M. & Steinfatt, T. M. (1998). Intercultural communication. Prospect heights, IL: Waveland.
- Samovar, L. A. & Porter, R. E. (1991). Communication between cultures. Belmont, CA: Wadsworth.
- Ting-Toomey, S. (1999). Communicating across cultures. New York: Guilford.
- กาญจนา แก้วเทพ (2544). บทที่ 5 การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม. ศาสตร์แห่งสื่อและวัฒนธรรมศึกษา (หน้า 156-193). เอดิสันเพรส: กรุงเทพฯ.
การให้คะแนน
- รายงานย่อย 2 ชิ้น
- คุยกับคนต่างเชื้อชาติ เกี่ยวกับการสื่อสารของเขากับคนไทย 10%
- Book Review 1 เล่ม หรือ Movie Review 1 เรื่อง (เขียนไม่เกิน 2 หน้า) 10%
- Group project ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในชีวิตจริง 20%
- นำเสนองาน Group project 10%
- สอบกลางภาค (Take home) 20%
- สอบปลายภาค (Take home) 20%
- ส่งงานตรงเวลา 10%
งานเดี่ยว 1 (คุยกับคน) 10%
คุยกับคนต่างชาติที่ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้เกี่ยวกับอาหารประจำชาติของเขาที่เขาชอบกิน ท่านนักศึกษาที่เคารพจะต้องได้สิ่งต่อไปนี้มาเขียนเป็นรายงาน
1. สูตรทำอาหารประจำชาติของเขาที่เขาชอบ 1 สูตร
2. ถ้าไม่ได้พูดคุยด้วยตนเอง ไปเลือกหาใครมาเป็นล่ามได้อย่างไร?
3. มีสิ่งใดบ้างที่ทำให้รู้สึกว่าการสนทนาของเราราบรื่น สิ่งใดบ้างที่ทำให้รู้สึกว่าการสนทนาไม่ราบรื่น?
4. รู้สึกอย่างไรระหว่างการพูดคุยกับคนต่างชาติที่พูดไทยไม่ได้ เหตุใดจึงรู้สึกเช่นนั้น
1. สูตรทำอาหารประจำชาติของเขาที่เขาชอบ 1 สูตร
2. ถ้าไม่ได้พูดคุยด้วยตนเอง ไปเลือกหาใครมาเป็นล่ามได้อย่างไร?
3. มีสิ่งใดบ้างที่ทำให้รู้สึกว่าการสนทนาของเราราบรื่น สิ่งใดบ้างที่ทำให้รู้สึกว่าการสนทนาไม่ราบรื่น?
4. รู้สึกอย่างไรระหว่างการพูดคุยกับคนต่างชาติที่พูดไทยไม่ได้ เหตุใดจึงรู้สึกเช่นนั้น
งานเดี่ยว 2 (Review หนังสือ หรือ ภาพยนตร์) 10%
เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการสื่อสารกับคนที่มาจากถิ่นอื่น ท่านนักศึกษาที่เคารพจึงควรจะหาความรู้นอกเหนือไปจากสิ่งที่เรียนในเวลา ผู้สอนจึงเสนอว่าท่านควรหาหนัง หรือหนังสือ ที่ท่านคิดว่าเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมมา Review กัน
กรุณาเลือก Review เพียงหนึ่งเล่มเท่านั้น
โดยใน Review นั้นควรจะมีเนื้อเรื่องโดยย่อ พร้อมทั้งทัศนะวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในหนังสือที่เลือกของท่านเอง
ส่วนท่านจะเลือก Review หนังสือเล่มใด กรุณาปรึกษาผู้สอนก่อน และถ้าจะให้ดีก็เอาหนังสือมาให้ดูด้วย (เน้อ)
กรุณาเลือก Review เพียงหนึ่งเล่มเท่านั้น
โดยใน Review นั้นควรจะมีเนื้อเรื่องโดยย่อ พร้อมทั้งทัศนะวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในหนังสือที่เลือกของท่านเอง
ส่วนท่านจะเลือก Review หนังสือเล่มใด กรุณาปรึกษาผู้สอนก่อน และถ้าจะให้ดีก็เอาหนังสือมาให้ดูด้วย (เน้อ)
งานกลุ่ม 1 (รายงาน/สารคดี การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม) 20%
จับกลุ่มไม่เกินกลุ่มละ 4 คน ทำรายงานหรือจัดทำสารคดีเชิงวิเคราะห์ 5 นาที ร่วมกัน ในลักษณะกรณีศึกษาภายใต้ประเด็นเกี่ยวกับการปรับตัวของ
1. คนต่างชาติซึ่งทำงานในประเทศไทยมากกว่า 1 ปี เช่น Expat ที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ บริษัทคนไทย พระต่างชาติที่มาบวชอยู่เมืองไทย
2. คนต่างวัฒนธรรมซึ่งแต่งงานกัน เช่น คนไทยกับต่างชาติ คนไทยต่างศาสนา คนไทยต่างภาค
3. นักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย
โดยต้องสัมภาษณ์มากกว่า 4 คน (เฉลี่ยสมาชิก 1 คนต่อผู้ให้สัมภาษณ์ 1 คน)
เกณฑ์การให้คะแนนรายงาน/สารคดี ได้แก่
1. การเกริ่นนำ ชี้ให้เห็นความสำคัญของประเด็น ทำไมถึงทำเขียนถึง/สารคดีเรื่องนี้
2. เนื้อหา วิเคราะห์ให้เห็นความโดดเด่นของประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาหรือความสำเร็จ จากสิ่งที่ได้สัมภาษณ์และหาข้อมูลด้านอื่นๆ มา
3. ข้อสรุปที่บ่งบอกถึงบทเรียนที่ได้จากรายงาน/สารคดีนี้ในเชิงวิชาการด้านการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม
1. คนต่างชาติซึ่งทำงานในประเทศไทยมากกว่า 1 ปี เช่น Expat ที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ บริษัทคนไทย พระต่างชาติที่มาบวชอยู่เมืองไทย
2. คนต่างวัฒนธรรมซึ่งแต่งงานกัน เช่น คนไทยกับต่างชาติ คนไทยต่างศาสนา คนไทยต่างภาค
3. นักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย
โดยต้องสัมภาษณ์มากกว่า 4 คน (เฉลี่ยสมาชิก 1 คนต่อผู้ให้สัมภาษณ์ 1 คน)
เกณฑ์การให้คะแนนรายงาน/สารคดี ได้แก่
1. การเกริ่นนำ ชี้ให้เห็นความสำคัญของประเด็น ทำไมถึงทำเขียนถึง/สารคดีเรื่องนี้
2. เนื้อหา วิเคราะห์ให้เห็นความโดดเด่นของประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาหรือความสำเร็จ จากสิ่งที่ได้สัมภาษณ์และหาข้อมูลด้านอื่นๆ มา
3. ข้อสรุปที่บ่งบอกถึงบทเรียนที่ได้จากรายงาน/สารคดีนี้ในเชิงวิชาการด้านการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม
งานกลุ่ม 2 (นำเสนอรายงาน/สารคดี) 10%
เมื่อเขียนหรือทำสารคดีแล้ว ก็ควรจะมีการนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้รู้ได้เห็นกัน เพื่อประจาน... เอ่อออ ประกาศให้รู้ว่า เราก็มีฝีมือเหมือนกัน
วันนำเสนอจะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอน ซึ่งอาจจะเป็นวันที่ต้องส่งข้อสอบ Final ด้วยก็ได้
เกณฑ์การให้คะแนนการนำเสนอ ได้แก่
1. พูดจารู้เรื่อง ฟังแล้วไม่งง ไม่น่าเบื่อ
2. สามารถดึงความสนใจของคนในห้องได้ดี เช่น คนในห้องมีส่วนร่วมในการนำเสนอ
3. ใช้อวัจนภาษาที่ทำให้การนำเสนอมีชีวิตชีวา
4. การแต่งกายในการนำเสนออยากแต่งตัวแบบไหนก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้านำเสนอแล้วทำให้ผู้สอนใจสั่น เสียสมาธิ จะถูกหักคะแนน เพราะถือว่า รวมหัวกันวางแผนเบี่ยงเบนความสนใจการนำเสนอ
วันนำเสนอจะเป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอน ซึ่งอาจจะเป็นวันที่ต้องส่งข้อสอบ Final ด้วยก็ได้
เกณฑ์การให้คะแนนการนำเสนอ ได้แก่
1. พูดจารู้เรื่อง ฟังแล้วไม่งง ไม่น่าเบื่อ
2. สามารถดึงความสนใจของคนในห้องได้ดี เช่น คนในห้องมีส่วนร่วมในการนำเสนอ
3. ใช้อวัจนภาษาที่ทำให้การนำเสนอมีชีวิตชีวา
4. การแต่งกายในการนำเสนออยากแต่งตัวแบบไหนก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้านำเสนอแล้วทำให้ผู้สอนใจสั่น เสียสมาธิ จะถูกหักคะแนน เพราะถือว่า รวมหัวกันวางแผนเบี่ยงเบนความสนใจการนำเสนอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น